วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

"เชียงหัว" 羌活 ปวดเมื่อยช่วงบน ต้องตัวนี้เลย!!!


เชียงหัว"羌活"




     ที่มา : คำว่าเชียง(羌) เป็นชื่อของสถานที่เขตปกครองในสมัยโบราณ เพราะพบเจอยาตัวนี้ได้มากในบริเวณนี้ คำว่า หัว(活) มาจากชื่อตัวยา ตู๋หัว(独活) เพราะมีสรรพคุณคล้ายกับยาตู๋หัว จึงจับชื่อมาตั้งรวมกันเป็นเชียงหัว 

     ตัวยาเชียงหัวนั้น คือเหง้าและรากของต้นไม้ 2 ชนิดคือ ต้นเชียงหัว(羌活) Notopterygium incisum Ting ex H.T. Chang และ ต้นควานเย้เชียงหัว(宽叶羌活)(เชียงหัวใบกว้าง) Notopterygium franchetii H. de Boiss. เกิดขึ้นเองในธรรมชาติ พบได้ทั่วไปในแถบเสฉวน จะเรียกว่า ชวนเชียง(川羌) หรือ ฉานเชียง(蚕羌) ในส่วนที่มาจากแถบตะวันตกเฉียงเหนือ จะเรียกว่า ซีเชียง(西羌เชียงตะวันตก)หรือ ต้าโถวเชียง(大头羌เชียงหัวใหญ่) หรือ จู๋เจ๋เชียง(竹节羌เชียงข้อไผ่)

     เก็บเกี่ยวเหง้าและรากในช่วงฤดูใบไม้ผลิและร่วง ทำความสะอาด ตากแห้งหรืออบแห้ง และจึงนำมาฝาน ก็จะได้ตัวยาเชียงหัวพร้อมใช้

     ตัวยาจะแบ่งตามที่มาหลักๆ 2 ชนิด คือชวนเชียง และซีเชียง และด้วยรูปร่างลักษณะและส่วนที่มาแตกต่างกัน จึงแยกเรียกออกไปอีกคือ ฉานเชียง จู๋เจ๋เชียง ต้าโถวเชียง เถียวเชียง และยังแบ่งตามคุณภาพยาออกเป็นอีก 2-3 เกรด แต่โดยรวมแล้ว เชียงหัวที่ดี ต้องเป็นเส้นทรงกระบอกหนา รอยหยักรอบนอกต้องเยอะ ผิวหน้าตัดต้องแน่น มีจุดน้ำมันเยอะ กลิ่นต้องแรง


การแบ่งเกรดของเชียงหัว

1.ชวนเชียง

     ชวนเชียงเกรด 1 (ฉานเชียง蚕羌) รากทรงกระบอกกลม เส้นรอบนอกหยักแน่นเหมือนหนอน(ฉาน蚕) ผิวสีน้ำตายไหม้ น้ำหนักเบา ผิวหน้าตัดแน่น สีน้ำตาลแดง เส้นรอบวงกลางสีเหลือง กลิ่นแรงแต่ไม่ฉุน รสเผ็ดขมเล็กน้อย มีความยาว 3.5 เซนติเมตรขึ้นไป  เส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 1 เซนติเมตรขึ้นไป
   
     ชวงเชียงเกรด 2 (เถียวเชียง条羌) รากยาวเป็นเส้น ผิวสีน้ำตาลไหม้ มีรอยรอบวงเยอะ น้ำหนักเบา ผิวหน้าตัดมีสีน้ำตาล เหลือง ขาว เป็นเส้นๆสลับกัน กลิ่นแรงไม่ฉุน รสเผ็ดขมเล็กน้อย  จะยาวจะสั้นไม่แบ่งเกรด

2.ซีเชียง

     ซีเชียงเกรด 1 (ฉานเชียง蚕羌) ผิวหน้าตัดมีสีน้ำตาล แดงม่วง ขาว แทรกกันเป็นเส้น กลิ่นค่อนข้างฉุน รสเผ็ดขมเล็กน้อย ลักษณะอย่างอื่นเหมือนกับชวนเชียงเกรด 1

     ซีเชียงเกรด 2 (ต้าโถวเชียง大头羌) เป็นก้อนตะปุมตะปั่มไม่สมมาตร ผิวน้ำตาลไหม้ น้ำหนักเบา หน้าตัดมีเส้นน้ำตาล เหลือง ขาว กลิ่นฉุน รสเผ็ดขมเล็กน้อย ไม่มีรากฝอย

     ซีเซียงเกรด 3 (เถียวเชียง条羌) รูปร่างยาว ผิวสีน้ำตาลหม่น มีรอยรอบวง กลิ่นหอมอ่อนๆ  รสเผ็ดขมเล็กน้อย ไม่มีรากฝอย

รสฤทธิ์ : เผ็ด ขม ฤทธิ์อุ่น วิ่งเข้าเส้นลมปราณกระเพาะปัสสาวะ ไต

สรรพคุณ : ขับไล่ควาามเย็นสลายเปี่ยว ขับลมและความชื้น แก้ปวด

ใช้ในการรักษา :

1.หวัดที่มีสาเหตุมาจากลมเย็นปนชื้น  เชียงหัวเผ็ดอุ่นขับไล่ลมเย็น รสขมฤทธิ์อุ่นขับไล่ความชื้น

2.ปวดจากการกระทบกระแทกที่มีสาเหตุมาจากลมเย็นปนชื้น นอกจากรักษาหวัดแล้วยังสามารถรักษาเสียชี่ที่วิ่งเข้าแทรกตามกล้ามเนื้้อ เอ็น ข้อต่อ  ที่ทำให้ก่ออาการปวด โดยเฉพาะอาการปวดบริเวณช่วงบ่าและหลัง

3.บวมน้ำ ถ่ายท้องอาเจียนจากการคั่งของน้ำ ด้วยรสขมฤทธิ์อุ่นของเชียงหัวที่สามารถสลายชื้นได้ จึงสามารถนำมาใช้รักษาอาการบวมน้ำต่างๆได้

4.กล้านเนื้อหดเกร็ง ตะคริว  ด้วยตัวลมปราณของเชียงหัวมีลักษณะเบา กระจาย ทะลุทะลวง จึงสามารถนำมาใช้รักษาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งต่างๆ รวมถึงผู้ป่วยโรคชัก หรือผู้ป่วยอัมพาตที่มีอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งด้วยเช่นกัน

5.อาการปวดศรีษะ โรคไมเกรน เนื่องมาจากกระทบเสียชี่ภายนอก เชียงหัวมีรสเผ็ดขับไล่ลม ลักษณะเบาลอยกระจายทะลวงขึ้นด้านบนสู่ใบหน้าและศรีษะ  จึงสามารถขับไล่เสียชี่ลม แก้อาการปวดศรีษะ

6.ตาแดงอักเสบเป็นต้อ คัดจมูกปวดฟัน ด้วยมีลักษณะทิศวิ่งขึ้นช่วงบนสูบริเวณศรีษะและใบหน้า จึงใช้รักษาโรคต่างๆของตา หู คอ จมูก ปากได้

7.พิษไฟอุดกั้นภายใน ฝีหนองชนิดต่างๆ ตัวยามีฤทธิ์ดึงลอยขึ้นบนและกระจาย สามารถดึงพิษหยางให้ลอยขึ้นและกระจายออกสู่ภายนอกได้ จึงสามารถรักษาฝีหนองอักเสบต่างๆ รวมถึงท้องผูกที่เกิดจากไฟอุดกั้นได้เช่นกัน

ปริมาณการใช้ : 3 - 10 กรัมในรูปแบบยาต้ม ลูกกลอน และยาผง

ข้อควรรระวัง : หลีกเลี่ยงการใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการปวดจากเลือดพร่อง



ต้นเชียงหัว



ต้นควานเย้เชียงหัว



      หมายเหตุ : ในอดีต จะไม่มีการแบ่งแยกระหว่างตัวยาเชียงหัว(羌活)และตู๋หัว(独活) ในอดีตอาจจะเรียกตัวยาตู๋หัวว่าเชียงหัว เพราะมีสรรพคุณที่คล้ายกัน คือขับไล่ลมและความชื้นแก้ปวด แต่จริงๆแล้วก็เป็นตัวยา 2 ตัวต่างชนิดกัน ตัวยาเชียงหัวจะมีฤทธิ์ไปทางที่แห้งกว่า เน้นการวิ่งเข้าเส้นลมปราณกระเพาะปัสสสาวะมากกว่าเส้นไต เด่นในการขับไล่เสียชี่ในระดับเปี่ยว และโรคที่เกิดบริเวณช่วงบนของร่างกาย ส่วนตัวยาตู๋หัวจะมีกลิ่นที่อ่อน การออกฤทธิ์ของตัวยาจะนุ่มนวล เน้นวิ่งเข้าเส้นลมปราณไตมากกว่ากระเพาะปัสสาวะ เหมาะสำหรับรักษาโรคที่มีสาเหตุมาจากลมชื้นที่ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก และโรคที่เกิดบริเวณช่วงล่างของร่างกาย และโรคที่เกิดระดับลี่(里) คนโบราณมีคำพูดที่ว่า"独活治伏风,羌活治游风" คือตู๋หัวใช้รักษาโรคลมที่แอบอยู่ภายใน เชียงหัวรักษาโรคลมที่ไหลอยู่ภายนอก


วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

"ฝางฟง" 防风 ถ้าลมมาก็ใช้ลมกลับ ไม่โกงนะจ๊ะ



防风"ฝางฟง"





     ฝางฟง ตัวนี้ที่มาของชื่อตามชื่อเลยครับ ฝาง(防)แปลว่า สกัดกั้น ป้องกัน ฟง(风)แปลว่าลม หมายถึงลมที่เป็นเสียชี่ในทางแพทย์แผนจีน ฝางฟงตัวนี้ ในโบราณได้มีการบันทึกไว้ว่าใช้รักษาโรคเกี่ยวกับลมได้ดีที่สุดตัวหนึ่ง จึงตั้งชื่อตามสรรพคุณของมัน

     ตัวยาฝางฟงคือรากของต้น Saposhnikovia divaricata (Trucz.) Schischek. นิยมปลูกในแถบมณฑลภาคเหนือ มณฑลเสฉวนและยูนนาน จึงมีชื่อที่มาจากแหล่งเพาะปลูกคือ กวนฝางฟง(关防风) ชวนฝางฟง(川防风) และ หยู๋นฝางฟง(云防风) มักเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลิและร่วง นำรากฝอยออก ล้างทำความสะอาด ตาก 8 แดดจนแห้ง แช่น้ำฝานแผ่นแล้วตากให้แห้งอีกรอบ จะได้เป็นตัวยาฝางฟงออกมา ถ้านำไปผัดไฟต่อจนเหลืองน้ำตาล ก็จะได้เป็นตัวยา เฉ่าฝางฟง(炒防风)

     ตัวยาฝางฟงนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 เกรด ตามลักษณะ รูปร่าง โดยลักษณะของฝางฟงที่ดีต้อง หนา แน่น กลมสวยเป็นทรงกระบอก ผิวแน่นระเอียด ไม่เป็นเสี้ยน หน้าตัดต้องมีขอบยักสวย สีออกน้ำตาล ตรงกลางสีเหลืองอ่อน น้ำหนักเบา กัดแล้วนุ่มไม่แข็ง จากทั้ง3ที่ กวนฝางฟงจะดีที่สุดในทุกเกรด ด้วยเกรด 1 จะมีความกว้างเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.6 เซนติเมตรขึ้นไป ส่วนเกรด 2 จะมีความกว้างต่ำกว่า 0.4 เซนติเมตร ซึ่งโดยมากเกรด 1 จะเป็นรากแก้ว ส่วนเกรด 2 จะเป็นรางแขนง

รสฤทธิ์ : เผ็ด หวาน ฤทธิ์กลางค่อนไปทางอุ่น วิ่งเส้นลมปราณ กระเพาะปัสสาวะ ตับ ม้าม

สรรพคุณ: ขับไล่ลม ขจัดเปี่ยว ไล่ชื้น ระงับปวด ระงับชัก

ใช้ในการรรักษา :

1.โรคระดับเปี่ยว ฝางฟงมีทิศวิ่งขึ้นและกระจาย เพราะฉะนั้นโรคลมที่เป็นระดับเปี่ยว ไม่ว่าจะปนร้อน หรือเย็น ก็สามารถนำฝางฟงไปใช้ร่วมกับยาตัวอื่นได้

2.ผด ผื่น คัน ฝางฟงเผ็ดกระจาย อุ่นทะลวง ขับไล่ลม แก้อาการคัน สามารถใช้กับโรคผิวหนังต่างๆที่มีผื่นคัน

3.ฝีอักเสบ ไฟลามทุ่ง ฝางฟงเผ็ดกระจาย อุ่นทะลวง สามารถที่จะลดบวม และทะลวงเสียชี่ให้ออกสู่ภายนอก เหมาะสำหรับใช้รักษากลุ่มอาการฝีหนอง

4.อาการปวดจากลมชื้น จากการกระทบกระแทก ฝางฟงเผ็ดอุ่น ขับลมไล่ความเย็น ขับชื้นแก้ปวด ลดบวมสลายก้อน มักใช้กับกลุ่มอาการปวดจากลมชื้น ปวดจากการกระทบกระแทก ไขข้อบวม

5.เวียนศรีษะ ลมชัก ที่มีสาเหตุจากลมของตับ ฝางฟงเป็นยาสำคัญในเส้นลมปราณตับ ด้วยความเผ็ดจะกระตุ้นทะลวงระบบลมปราณ ทั้งยังขับไล่ลมภายนอก พร้อมกับระงับลมภายใน ฝางฟงจึงตัวเป็นยาแก้อาการชักได้ดี

6.ปวดชายโครงจากลมตับอุดกั้น ท้องเสียที่มีอาการปวดท้องร่วม ด้วยฝางฟงมีสรรพคุณในการปรับสมดุลของทั้งตับ และม้าม จึงใช้รักษาอาการปวดที่เกิดจากลมตับติดขัด ท้องเสียปวดท้อง ที่เกิดจากตับและม้ามไม่สมดุลกัน

7.ปวดศรีษะ ตาอักเสบ คอบวมอักเสบ แผลในปาก ลักษณะของฝางฟงที่มักจะวิ่งขึ้นสู่ด้านบน ทั้งยังขจัดเสียชี่ ทะลวงการอุดกั้น จึงมักใช้บ่อยในโรคที่เกิดบริเวณศรีษะ ใบหน้า หู ตา คอ จมูก ปาก

8.หลงลืมใจสั่น ปัสสาวะอุจจาระผิดปกติ ฝางฟง ดึงหยางให้ขึ้นบน ทำให้อินลงล่าง เหมาะสำหรับโรคที่เกิดจากหยางไม่ลอยขึ้นบน สมองไม่ได้รับสารอาหาร ทำให้ตกใจง่าย ขี้ลืม อ่อนเพลีย ฝางฟงทะลวงอุดกั้น ขับไล่ไฟ ดึงเบากดหนัก(升清降浊) จึงนำมาใช้รักษาปัสสาวะอุดจาระไม่ปกติจากการที่มีไฟอุกกั้นภายใน

9.เหงื่อออกผิดปกติ อาเจียนเป็นเลือด เลือดออกทางช่องคลอด ฝางฟง ขจัดทะลวงลม ปกป้องระดับเปี่ยวทำให้ลมปราณระดับเว่ยแข็งแรง ทั้งยังดึงหยางให้ลอยขึ้นบน ทำให้เลือดกลับสู่ระบบชีพจร จึงสามารถนำมาใช้ได้ในโรคเหงื่อออกผิดปกติและโรคเลือดออกผิดปกติ

ปริมาณการใช้ : 5 - 10 กรัม ในรูปแบบยาต้ม ยาลูกกลอน หรือยาผง ใช้ภายนอกบดพอกตามเหมาะสม

ข้อควรระวัง : หลีกเลี่ยงการใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการชักที่มีสาเหตุจากเลือดพร่อง หรือจากสาเหตุอินพร่องจนเกิดไฟขึ้นบน




สรุป จุดเด่นของทั้งฝางฟงและจิงเจี้ยะ

     ทั้ง 2 ตัวยา เป็นยาใช้บ่อยในโรคระดับเปี่ยวที่มีเรื่องลมและผดผื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ จิงเจี้ยะ จะเด่นที่ฤทธิ์เผ็ดทะลวงที่แรงกว่า เหมาะกับใช้รักษา ผด ผื่น ฝี และจิงเจี้ยะสุมมีสรรพคุณหยุดเลือด ใช้สำหรับโรคเลือดออกผิดปกติ ส่วนตัวฝางฟงนั้น เด่นที่สรรพคุณไล่ชื้นแก้ปวด เหมาะสำหรับโรคปวดจากลมชื้น ไขข้อปวดบวม ทั้งยังเด่นที่สามารถขับไล่ลมภายนอกรวมถึงระงับลมภายในได้ในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับรักษาโรคที่มีสาเหตุจากลมภายนอกทำให้เกิดลมภายใน(外风引动内风) เช่น โรคบาดทะยัก โรคชักเกร็ง



วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

จุด "ฉื่อเจ๋อ" แหล่งน้ำของเส้นปอด(จุดขายดี)


จุดฉื่อเจ๋อ เป็นจุดเหอของเส้นลมปราณมือไท่อินปอด

ที่มาของชื่อ : ฉื่อ(尺) คือ หน่วยวัดความยาวตั้งแต่ข้อมือจนถึงศอกเรียกเป็น 1 ฉื่อ
                        เจ๋อ(泽) คือ บริเวณที่เป็นแอ่ง เป็นบ่อ

สรุปคือ จุด จุดนี้เป็นจุดเหอ(合穴)ของเส้นลมปราณปอด ในปัญจธาตุอยู่ในธาตุน้ำ ลมปราณของปอดไหลมารวมกันในจุดนี้เหมือนกับน้ำที่มักจะไหลไปรวมกันที่ก้นแอ่งเสมอ โบราณจึงเรียกจุดนี้ว่าฉื่อเจ๋อ

ตำแหน่ง เป็นแอ่งบุ๋ม อยู่บริเวณข้อพับแขน ข้างหัวกล้ามเนื้อไบเซปทางฝั่งด้านนอก 

สรรพคุณ ระบายและให้ความชุ่มชื้นกับปอด ปรับสมดุลลมปราณปอด

ใช้ในการรักษา อาการไอ หอบ ไอเป็นเลือด เป็นไข้ คอบวมอักเสบ แน่นหน้าอก เจ็บหัวใจ อาการชักในเด็ก เจ็บแขนเจ็บข้อศอก หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ วัณโรคปอด ทอนซิลอักเสบ ลำไส้อักเสบเฉียบพลัน 

วิธีใช้ ปักตรง 0.5 - 1 ชุ่น หรือเจาะปล่อยเลือด หรือสามารถรมยาได้

การใช้ร่วมกับจุดอื่น 

1.ร่วมกับจุด เฟ่ยซู(肺俞) โฆ่งจุ่ย(孔最) เหอกู่(合谷) ยวี๋จี้(鱼际) รักษาไอ หอม เจ็บคอ ไอมีเลือด

2.ร่วมกับจุด เกาหวาง(膏肓) รักษาวัณโรคปอด

3.ร่วมกับจุด เหอกู่(合谷) หลานกู่(然谷) รักษาโรคชัก หรือข้อศอกอักเสบรุนแรง

4.ร่วมกับจุด เหว่ยจง(委中) รักษาอาการอาเจียนร่วมกับถ่ายท้องแบบเฉียบพลัน