荆芥
จิง(荆)หมายถึงชื่อเรียกต้นไม้ชนิดหนึ่งในวงศ์เดียวกันนี้ ซึ่งมีลักษณะเป็นไม้พุ่ม ออกดอกเป็นก้านช่อ กลีบดอกสีมวงขาว เจี้ยะ(芥)หมายถึงเมล็ดมัสตาร์ด เพราะว่าต้นจิงเจี้ยะมีลักษณะคล้ายต้นในวงศ์เดียวกัน ทั้งเมล็ดยังมีกลิ่นเผ็ดหอมเหมือนมัสตาร์ด จึงนำทั้งสองคำมาประกอบกันเป็นชื่อเรียกของต้นจิงเจี้ยะขึ้นมา
จิงเจี้ยะมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Schizonepeta tenuifolia (Benth.) Briq.(裂叶荆芥) ชื่อเก่าคือ Nepeta tenuifolia Benth. ใช้ส่วนที่เหนือพื้นขึ้นมาทั้งหมดต้น เก็บเกี่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ช่วงช่อดอกบานแต่ยังเขียวอยู่ โดยตัดส่วนช่อตากแยกจากส่วนต้นกิ่งต่างหาก หรือจะไม่แยกก็ได้ ส่วนส่วนของช่อที่แห้งดีแล้วนั้นเรียก 荆芥穗 ส่วนกิ่งต้นเรียก 荆芥梗 และในส่วนไม่ได้ตัดแยกตากเรียก 荆芥全草 ยาจิงเจี้ยะที่ดีควรมีสีม่วงอ่อน กิ่งเล็ก ช่อยาวแน่น
รสฤทธิ์ : เผ็ด ฤทธิ์กลางค่อนอุ่น วิ่งเข้าเส้นลมปราณ ปอด ตับ
สรรพคุณ : ขับไล่ลมระดับเปี่ยว ทะลวงตุ่มผดผื่น ยุบฝีหนอง สุ่มไฟใช้ในการหยุดเลือด
ใช้ในการรักษา :
1.โรคระดับเปี่ยว จิงเจี้ยะเผ็ด ทั้งฤทธิ์เป็นกลางค่อนทางอุ่น ระบายทะลวงเสียชี่จากภายนอก จึงเหมาะสำหรับใช้กับหวัดทั้งเกิดจากลมร้อนหรือลมหนาว รวมถึงโรคเขตร้อน(温病)ในระยะเริ่มแรก
2. ผดไม่มีหัว จิงเจี้ยะเผ็ดอุ่นทะลวง สามารถทั้งขับไล่ลมที่อุกกั้นภายนอก และทะลวงเสียชี่ที่อยู่ภายในระบายออกสู่ภายนอกได้เช่นกัน
3.ฝีหนองและอาการปวดจากการกระทบกระแทก จิงเจี้ยะ เผ็ดอุ่นขับเคลื่อนลมปราณ จึงเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้เช่นกัน จึงนำมาใช้ในการรักษาก้อนบวมและอาการปวดได้ (通则不肿不痛)
4.เลือดออกผิดปกติที่ไม่ได้เกิดจากบาดแผลภายนอก จิงเจี๊ยะสามารถขับเคลื่อนลมปราณ ดึงหยางให้ขึ้นด้านบน ใช้ในการรักษาโรคเลือดออกที่มีสาเหตุเกิดจากเลือดวิ่งออกนอกเส้นลมปราณ การเดินลมปราณตีย้อนไม่ปกติ (หยางเหนี่ยวรั้งอิน ชี่เหนี่ยวรั้งเลือด) ใช้การสุ่มไฟจิงเจี้ยะเพิ่มประสิทธิภาพในการห้ามเลือด สามารถใช้ได้ค่อนข้างกว้าง ไม่ว่าจะเป็นอาการอาเจียนเป็นเลือด เลือดออกตามไรฟัน จ้ำเลือดจากเลือดออกใต้ผิวหนัง ถ่ายเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด ตกเลือด เป็นต้น
5.ผื่นคัน ลมพิษ จิงเจี้ยะมีรสเผ็ด สามารถขับไล่เสียชี่ลม ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการคันได้ โดยนอกจากลมพิษแล้ว สามารถใช้ได้ทุกกรณีที่มีอาการคันบริเวณผิวหนัง
6.ปวดศรีษะตาแดง ช่องหูบวมอักเสบ คอบวมอักเสบ เพราะนอกจากมีรสเผ็ดขับกระจายแล้ว ยังมีลักษณะเบาลอยขึ้นบน เหมาะสำหรับใช้รักษาโรคที่เกิดช่วงบนซ่างเจียวของร่างกาย
7.อัมพาต ชัก อาการเวียนศรีษะหลังคลอด ตัวจิงเจี้ยะเผ็ดอุ่น วิ่งเข้าเส้นลมปราณตับ ปรับสมดุลและกระจายลมปราณของตับ จึงสามารถรักษาโรคต่างๆที่เกิดจากลมปราณตับติดขับหรือเกิดจากเกิดลมตับ
8.ปัสสาวะอุจจาระไม่คล่อง ไอหอบ ถึงแม้ว่าตัวของจิงเจี้ยะนั้น จะเป็นยาที่ขับกระจายและลอยขึ้นบน จะไม่กักเก็บและลงล่าง อย่างที่พวกเราเข้าใจกัน แม้กระนั้น แพทย์แผนจีนอาวุโสในอดีต ก็ได้เลือกจิงเจี้ยะเข้ามาใส่ในตำรับยาที่ใช้รักษาอาการท้องผูก กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ด้วยเช่นกัน โดยใช้หลักการของการดึงเบาขึ้นบน และใช้ยาตัวอื่นกดหนักลงไป (升清降浊)
ปริมาณการใช้ : ใช้ภายใน 5-10 กรัม ในรูปแบบ ยาต้ม ทำลูกกลอน หรือยาผง
ใช้ภายนอก ตำ บด พอกภายนอก ต้มอาบหรือแช่
ข้อควรระวัง : ไม่ควรต้มนาน เลี่ยงการใช้ในผู้ป่วยมีอาการเปี่ยวแบบพร่องเหงื่อออกมาก และผู้ป่วยปวดศรีษะที่มีสาเหตุจากสารอินพร่อง
รสฤทธิ์ : เผ็ด ฤทธิ์กลางค่อนอุ่น วิ่งเข้าเส้นลมปราณ ปอด ตับ
สรรพคุณ : ขับไล่ลมระดับเปี่ยว ทะลวงตุ่มผดผื่น ยุบฝีหนอง สุ่มไฟใช้ในการหยุดเลือด
ใช้ในการรักษา :
1.โรคระดับเปี่ยว จิงเจี้ยะเผ็ด ทั้งฤทธิ์เป็นกลางค่อนทางอุ่น ระบายทะลวงเสียชี่จากภายนอก จึงเหมาะสำหรับใช้กับหวัดทั้งเกิดจากลมร้อนหรือลมหนาว รวมถึงโรคเขตร้อน(温病)ในระยะเริ่มแรก
2. ผดไม่มีหัว จิงเจี้ยะเผ็ดอุ่นทะลวง สามารถทั้งขับไล่ลมที่อุกกั้นภายนอก และทะลวงเสียชี่ที่อยู่ภายในระบายออกสู่ภายนอกได้เช่นกัน
3.ฝีหนองและอาการปวดจากการกระทบกระแทก จิงเจี้ยะ เผ็ดอุ่นขับเคลื่อนลมปราณ จึงเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้เช่นกัน จึงนำมาใช้ในการรักษาก้อนบวมและอาการปวดได้ (通则不肿不痛)
4.เลือดออกผิดปกติที่ไม่ได้เกิดจากบาดแผลภายนอก จิงเจี๊ยะสามารถขับเคลื่อนลมปราณ ดึงหยางให้ขึ้นด้านบน ใช้ในการรักษาโรคเลือดออกที่มีสาเหตุเกิดจากเลือดวิ่งออกนอกเส้นลมปราณ การเดินลมปราณตีย้อนไม่ปกติ (หยางเหนี่ยวรั้งอิน ชี่เหนี่ยวรั้งเลือด) ใช้การสุ่มไฟจิงเจี้ยะเพิ่มประสิทธิภาพในการห้ามเลือด สามารถใช้ได้ค่อนข้างกว้าง ไม่ว่าจะเป็นอาการอาเจียนเป็นเลือด เลือดออกตามไรฟัน จ้ำเลือดจากเลือดออกใต้ผิวหนัง ถ่ายเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด ตกเลือด เป็นต้น
5.ผื่นคัน ลมพิษ จิงเจี้ยะมีรสเผ็ด สามารถขับไล่เสียชี่ลม ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการคันได้ โดยนอกจากลมพิษแล้ว สามารถใช้ได้ทุกกรณีที่มีอาการคันบริเวณผิวหนัง
6.ปวดศรีษะตาแดง ช่องหูบวมอักเสบ คอบวมอักเสบ เพราะนอกจากมีรสเผ็ดขับกระจายแล้ว ยังมีลักษณะเบาลอยขึ้นบน เหมาะสำหรับใช้รักษาโรคที่เกิดช่วงบนซ่างเจียวของร่างกาย
7.อัมพาต ชัก อาการเวียนศรีษะหลังคลอด ตัวจิงเจี้ยะเผ็ดอุ่น วิ่งเข้าเส้นลมปราณตับ ปรับสมดุลและกระจายลมปราณของตับ จึงสามารถรักษาโรคต่างๆที่เกิดจากลมปราณตับติดขับหรือเกิดจากเกิดลมตับ
8.ปัสสาวะอุจจาระไม่คล่อง ไอหอบ ถึงแม้ว่าตัวของจิงเจี้ยะนั้น จะเป็นยาที่ขับกระจายและลอยขึ้นบน จะไม่กักเก็บและลงล่าง อย่างที่พวกเราเข้าใจกัน แม้กระนั้น แพทย์แผนจีนอาวุโสในอดีต ก็ได้เลือกจิงเจี้ยะเข้ามาใส่ในตำรับยาที่ใช้รักษาอาการท้องผูก กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ด้วยเช่นกัน โดยใช้หลักการของการดึงเบาขึ้นบน และใช้ยาตัวอื่นกดหนักลงไป (升清降浊)
ปริมาณการใช้ : ใช้ภายใน 5-10 กรัม ในรูปแบบ ยาต้ม ทำลูกกลอน หรือยาผง
ใช้ภายนอก ตำ บด พอกภายนอก ต้มอาบหรือแช่
ข้อควรระวัง : ไม่ควรต้มนาน เลี่ยงการใช้ในผู้ป่วยมีอาการเปี่ยวแบบพร่องเหงื่อออกมาก และผู้ป่วยปวดศรีษะที่มีสาเหตุจากสารอินพร่อง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น