วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2561




จุดโข่งจุ้ย เป็นจุดซี(郗穴)ของเส้นลมปราณมือไท่อินปอด

ที่มาของชื่อ โข่ง(孔)หมายถึง อากาศ ความหมายในที่นี้หมายถึง การทะลุปรุโปร่ง
                 
                     จุ้ย(最)หมายถึง ที่สุด ความหมายในที่นี้คือ การมารวมกันเป็นที่สุด

สรุปคือ จุดนี้ เป็นจุดที่ลมปราณและเลือดของเส้นลมปราณปอด ไหลมาอัดแน่นรวมกันมากที่สุด เมื่อกระตุ้นที่จุดนี้ จะทำให้การกระจายลมปราณของปอดได้ดีที่สุด จึงเป็นที่มีของจุดโข่งจุ้ย ทะลุปรุโปร่งดีที่สุด

ตำแหน่ง : อยู่บนเส้นที่ลากระหว่างจุด ฉื่อเจ๋อ(池泽) และจุดไท่เยวียน(太渊) ตรงบริเวณท้องแขน เหนือข้อมือขึ้นมา 7 ชุ่น

สรรพคุณ : ลดร้อนแก้คออักเสบ ให้ความชุ่มชื้นแก่ปอด หยุดเลือด

ใช้ในการรักษา : ไอ หอบ ไอเป็นเลือด เป็นไข้ คออักเสบบวมโต ปวดศรีษะ เสียงแหบแห้ง ปวดบริเวณแขน ริดสีดวงทวาร หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ ทอนซิลอักเสบ วัณโรคปอด

วิธีใช้ : ปักตรง 0.5 - 1 ชุ่น หรือ รมยา

การใช้ร่วมกับจุดอื่น

1.ร่วมกับจุด เหอกู่(合谷) รักษาอาการมีไข้สูงแบบไม่มีเหงื่อออก

2.ร่วมกับจุด เฟยซู(肺俞) ฟงเหมิน(风门) ต้าจุย(大椎) รักษาอาการไอหอบ

3.ร่วมกับจุด เฟยซู(肺俞) ยวี๋จี้(鱼际) รักษาไอเป็นเลือด

4.ร่วมกับการปล่อยเลือดที่จุด เซ่าซาง(少商) รักษาคอปวมอักเสบ


วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

"เชียงหัว" 羌活 ปวดเมื่อยช่วงบน ต้องตัวนี้เลย!!!


เชียงหัว"羌活"




     ที่มา : คำว่าเชียง(羌) เป็นชื่อของสถานที่เขตปกครองในสมัยโบราณ เพราะพบเจอยาตัวนี้ได้มากในบริเวณนี้ คำว่า หัว(活) มาจากชื่อตัวยา ตู๋หัว(独活) เพราะมีสรรพคุณคล้ายกับยาตู๋หัว จึงจับชื่อมาตั้งรวมกันเป็นเชียงหัว 

     ตัวยาเชียงหัวนั้น คือเหง้าและรากของต้นไม้ 2 ชนิดคือ ต้นเชียงหัว(羌活) Notopterygium incisum Ting ex H.T. Chang และ ต้นควานเย้เชียงหัว(宽叶羌活)(เชียงหัวใบกว้าง) Notopterygium franchetii H. de Boiss. เกิดขึ้นเองในธรรมชาติ พบได้ทั่วไปในแถบเสฉวน จะเรียกว่า ชวนเชียง(川羌) หรือ ฉานเชียง(蚕羌) ในส่วนที่มาจากแถบตะวันตกเฉียงเหนือ จะเรียกว่า ซีเชียง(西羌เชียงตะวันตก)หรือ ต้าโถวเชียง(大头羌เชียงหัวใหญ่) หรือ จู๋เจ๋เชียง(竹节羌เชียงข้อไผ่)

     เก็บเกี่ยวเหง้าและรากในช่วงฤดูใบไม้ผลิและร่วง ทำความสะอาด ตากแห้งหรืออบแห้ง และจึงนำมาฝาน ก็จะได้ตัวยาเชียงหัวพร้อมใช้

     ตัวยาจะแบ่งตามที่มาหลักๆ 2 ชนิด คือชวนเชียง และซีเชียง และด้วยรูปร่างลักษณะและส่วนที่มาแตกต่างกัน จึงแยกเรียกออกไปอีกคือ ฉานเชียง จู๋เจ๋เชียง ต้าโถวเชียง เถียวเชียง และยังแบ่งตามคุณภาพยาออกเป็นอีก 2-3 เกรด แต่โดยรวมแล้ว เชียงหัวที่ดี ต้องเป็นเส้นทรงกระบอกหนา รอยหยักรอบนอกต้องเยอะ ผิวหน้าตัดต้องแน่น มีจุดน้ำมันเยอะ กลิ่นต้องแรง


การแบ่งเกรดของเชียงหัว

1.ชวนเชียง

     ชวนเชียงเกรด 1 (ฉานเชียง蚕羌) รากทรงกระบอกกลม เส้นรอบนอกหยักแน่นเหมือนหนอน(ฉาน蚕) ผิวสีน้ำตายไหม้ น้ำหนักเบา ผิวหน้าตัดแน่น สีน้ำตาลแดง เส้นรอบวงกลางสีเหลือง กลิ่นแรงแต่ไม่ฉุน รสเผ็ดขมเล็กน้อย มีความยาว 3.5 เซนติเมตรขึ้นไป  เส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 1 เซนติเมตรขึ้นไป
   
     ชวงเชียงเกรด 2 (เถียวเชียง条羌) รากยาวเป็นเส้น ผิวสีน้ำตาลไหม้ มีรอยรอบวงเยอะ น้ำหนักเบา ผิวหน้าตัดมีสีน้ำตาล เหลือง ขาว เป็นเส้นๆสลับกัน กลิ่นแรงไม่ฉุน รสเผ็ดขมเล็กน้อย  จะยาวจะสั้นไม่แบ่งเกรด

2.ซีเชียง

     ซีเชียงเกรด 1 (ฉานเชียง蚕羌) ผิวหน้าตัดมีสีน้ำตาล แดงม่วง ขาว แทรกกันเป็นเส้น กลิ่นค่อนข้างฉุน รสเผ็ดขมเล็กน้อย ลักษณะอย่างอื่นเหมือนกับชวนเชียงเกรด 1

     ซีเชียงเกรด 2 (ต้าโถวเชียง大头羌) เป็นก้อนตะปุมตะปั่มไม่สมมาตร ผิวน้ำตาลไหม้ น้ำหนักเบา หน้าตัดมีเส้นน้ำตาล เหลือง ขาว กลิ่นฉุน รสเผ็ดขมเล็กน้อย ไม่มีรากฝอย

     ซีเซียงเกรด 3 (เถียวเชียง条羌) รูปร่างยาว ผิวสีน้ำตาลหม่น มีรอยรอบวง กลิ่นหอมอ่อนๆ  รสเผ็ดขมเล็กน้อย ไม่มีรากฝอย

รสฤทธิ์ : เผ็ด ขม ฤทธิ์อุ่น วิ่งเข้าเส้นลมปราณกระเพาะปัสสาวะ ไต

สรรพคุณ : ขับไล่ควาามเย็นสลายเปี่ยว ขับลมและความชื้น แก้ปวด

ใช้ในการรักษา :

1.หวัดที่มีสาเหตุมาจากลมเย็นปนชื้น  เชียงหัวเผ็ดอุ่นขับไล่ลมเย็น รสขมฤทธิ์อุ่นขับไล่ความชื้น

2.ปวดจากการกระทบกระแทกที่มีสาเหตุมาจากลมเย็นปนชื้น นอกจากรักษาหวัดแล้วยังสามารถรักษาเสียชี่ที่วิ่งเข้าแทรกตามกล้ามเนื้้อ เอ็น ข้อต่อ  ที่ทำให้ก่ออาการปวด โดยเฉพาะอาการปวดบริเวณช่วงบ่าและหลัง

3.บวมน้ำ ถ่ายท้องอาเจียนจากการคั่งของน้ำ ด้วยรสขมฤทธิ์อุ่นของเชียงหัวที่สามารถสลายชื้นได้ จึงสามารถนำมาใช้รักษาอาการบวมน้ำต่างๆได้

4.กล้านเนื้อหดเกร็ง ตะคริว  ด้วยตัวลมปราณของเชียงหัวมีลักษณะเบา กระจาย ทะลุทะลวง จึงสามารถนำมาใช้รักษาอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งต่างๆ รวมถึงผู้ป่วยโรคชัก หรือผู้ป่วยอัมพาตที่มีอาการกล้ามเนื้อหดเกร็งด้วยเช่นกัน

5.อาการปวดศรีษะ โรคไมเกรน เนื่องมาจากกระทบเสียชี่ภายนอก เชียงหัวมีรสเผ็ดขับไล่ลม ลักษณะเบาลอยกระจายทะลวงขึ้นด้านบนสู่ใบหน้าและศรีษะ  จึงสามารถขับไล่เสียชี่ลม แก้อาการปวดศรีษะ

6.ตาแดงอักเสบเป็นต้อ คัดจมูกปวดฟัน ด้วยมีลักษณะทิศวิ่งขึ้นช่วงบนสูบริเวณศรีษะและใบหน้า จึงใช้รักษาโรคต่างๆของตา หู คอ จมูก ปากได้

7.พิษไฟอุดกั้นภายใน ฝีหนองชนิดต่างๆ ตัวยามีฤทธิ์ดึงลอยขึ้นบนและกระจาย สามารถดึงพิษหยางให้ลอยขึ้นและกระจายออกสู่ภายนอกได้ จึงสามารถรักษาฝีหนองอักเสบต่างๆ รวมถึงท้องผูกที่เกิดจากไฟอุดกั้นได้เช่นกัน

ปริมาณการใช้ : 3 - 10 กรัมในรูปแบบยาต้ม ลูกกลอน และยาผง

ข้อควรรระวัง : หลีกเลี่ยงการใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการปวดจากเลือดพร่อง



ต้นเชียงหัว



ต้นควานเย้เชียงหัว



      หมายเหตุ : ในอดีต จะไม่มีการแบ่งแยกระหว่างตัวยาเชียงหัว(羌活)และตู๋หัว(独活) ในอดีตอาจจะเรียกตัวยาตู๋หัวว่าเชียงหัว เพราะมีสรรพคุณที่คล้ายกัน คือขับไล่ลมและความชื้นแก้ปวด แต่จริงๆแล้วก็เป็นตัวยา 2 ตัวต่างชนิดกัน ตัวยาเชียงหัวจะมีฤทธิ์ไปทางที่แห้งกว่า เน้นการวิ่งเข้าเส้นลมปราณกระเพาะปัสสสาวะมากกว่าเส้นไต เด่นในการขับไล่เสียชี่ในระดับเปี่ยว และโรคที่เกิดบริเวณช่วงบนของร่างกาย ส่วนตัวยาตู๋หัวจะมีกลิ่นที่อ่อน การออกฤทธิ์ของตัวยาจะนุ่มนวล เน้นวิ่งเข้าเส้นลมปราณไตมากกว่ากระเพาะปัสสาวะ เหมาะสำหรับรักษาโรคที่มีสาเหตุมาจากลมชื้นที่ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก และโรคที่เกิดบริเวณช่วงล่างของร่างกาย และโรคที่เกิดระดับลี่(里) คนโบราณมีคำพูดที่ว่า"独活治伏风,羌活治游风" คือตู๋หัวใช้รักษาโรคลมที่แอบอยู่ภายใน เชียงหัวรักษาโรคลมที่ไหลอยู่ภายนอก


วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

"ฝางฟง" 防风 ถ้าลมมาก็ใช้ลมกลับ ไม่โกงนะจ๊ะ



防风"ฝางฟง"





     ฝางฟง ตัวนี้ที่มาของชื่อตามชื่อเลยครับ ฝาง(防)แปลว่า สกัดกั้น ป้องกัน ฟง(风)แปลว่าลม หมายถึงลมที่เป็นเสียชี่ในทางแพทย์แผนจีน ฝางฟงตัวนี้ ในโบราณได้มีการบันทึกไว้ว่าใช้รักษาโรคเกี่ยวกับลมได้ดีที่สุดตัวหนึ่ง จึงตั้งชื่อตามสรรพคุณของมัน

     ตัวยาฝางฟงคือรากของต้น Saposhnikovia divaricata (Trucz.) Schischek. นิยมปลูกในแถบมณฑลภาคเหนือ มณฑลเสฉวนและยูนนาน จึงมีชื่อที่มาจากแหล่งเพาะปลูกคือ กวนฝางฟง(关防风) ชวนฝางฟง(川防风) และ หยู๋นฝางฟง(云防风) มักเก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ผลิและร่วง นำรากฝอยออก ล้างทำความสะอาด ตาก 8 แดดจนแห้ง แช่น้ำฝานแผ่นแล้วตากให้แห้งอีกรอบ จะได้เป็นตัวยาฝางฟงออกมา ถ้านำไปผัดไฟต่อจนเหลืองน้ำตาล ก็จะได้เป็นตัวยา เฉ่าฝางฟง(炒防风)

     ตัวยาฝางฟงนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 เกรด ตามลักษณะ รูปร่าง โดยลักษณะของฝางฟงที่ดีต้อง หนา แน่น กลมสวยเป็นทรงกระบอก ผิวแน่นระเอียด ไม่เป็นเสี้ยน หน้าตัดต้องมีขอบยักสวย สีออกน้ำตาล ตรงกลางสีเหลืองอ่อน น้ำหนักเบา กัดแล้วนุ่มไม่แข็ง จากทั้ง3ที่ กวนฝางฟงจะดีที่สุดในทุกเกรด ด้วยเกรด 1 จะมีความกว้างเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.6 เซนติเมตรขึ้นไป ส่วนเกรด 2 จะมีความกว้างต่ำกว่า 0.4 เซนติเมตร ซึ่งโดยมากเกรด 1 จะเป็นรากแก้ว ส่วนเกรด 2 จะเป็นรางแขนง

รสฤทธิ์ : เผ็ด หวาน ฤทธิ์กลางค่อนไปทางอุ่น วิ่งเส้นลมปราณ กระเพาะปัสสาวะ ตับ ม้าม

สรรพคุณ: ขับไล่ลม ขจัดเปี่ยว ไล่ชื้น ระงับปวด ระงับชัก

ใช้ในการรรักษา :

1.โรคระดับเปี่ยว ฝางฟงมีทิศวิ่งขึ้นและกระจาย เพราะฉะนั้นโรคลมที่เป็นระดับเปี่ยว ไม่ว่าจะปนร้อน หรือเย็น ก็สามารถนำฝางฟงไปใช้ร่วมกับยาตัวอื่นได้

2.ผด ผื่น คัน ฝางฟงเผ็ดกระจาย อุ่นทะลวง ขับไล่ลม แก้อาการคัน สามารถใช้กับโรคผิวหนังต่างๆที่มีผื่นคัน

3.ฝีอักเสบ ไฟลามทุ่ง ฝางฟงเผ็ดกระจาย อุ่นทะลวง สามารถที่จะลดบวม และทะลวงเสียชี่ให้ออกสู่ภายนอก เหมาะสำหรับใช้รักษากลุ่มอาการฝีหนอง

4.อาการปวดจากลมชื้น จากการกระทบกระแทก ฝางฟงเผ็ดอุ่น ขับลมไล่ความเย็น ขับชื้นแก้ปวด ลดบวมสลายก้อน มักใช้กับกลุ่มอาการปวดจากลมชื้น ปวดจากการกระทบกระแทก ไขข้อบวม

5.เวียนศรีษะ ลมชัก ที่มีสาเหตุจากลมของตับ ฝางฟงเป็นยาสำคัญในเส้นลมปราณตับ ด้วยความเผ็ดจะกระตุ้นทะลวงระบบลมปราณ ทั้งยังขับไล่ลมภายนอก พร้อมกับระงับลมภายใน ฝางฟงจึงตัวเป็นยาแก้อาการชักได้ดี

6.ปวดชายโครงจากลมตับอุดกั้น ท้องเสียที่มีอาการปวดท้องร่วม ด้วยฝางฟงมีสรรพคุณในการปรับสมดุลของทั้งตับ และม้าม จึงใช้รักษาอาการปวดที่เกิดจากลมตับติดขัด ท้องเสียปวดท้อง ที่เกิดจากตับและม้ามไม่สมดุลกัน

7.ปวดศรีษะ ตาอักเสบ คอบวมอักเสบ แผลในปาก ลักษณะของฝางฟงที่มักจะวิ่งขึ้นสู่ด้านบน ทั้งยังขจัดเสียชี่ ทะลวงการอุดกั้น จึงมักใช้บ่อยในโรคที่เกิดบริเวณศรีษะ ใบหน้า หู ตา คอ จมูก ปาก

8.หลงลืมใจสั่น ปัสสาวะอุจจาระผิดปกติ ฝางฟง ดึงหยางให้ขึ้นบน ทำให้อินลงล่าง เหมาะสำหรับโรคที่เกิดจากหยางไม่ลอยขึ้นบน สมองไม่ได้รับสารอาหาร ทำให้ตกใจง่าย ขี้ลืม อ่อนเพลีย ฝางฟงทะลวงอุดกั้น ขับไล่ไฟ ดึงเบากดหนัก(升清降浊) จึงนำมาใช้รักษาปัสสาวะอุดจาระไม่ปกติจากการที่มีไฟอุกกั้นภายใน

9.เหงื่อออกผิดปกติ อาเจียนเป็นเลือด เลือดออกทางช่องคลอด ฝางฟง ขจัดทะลวงลม ปกป้องระดับเปี่ยวทำให้ลมปราณระดับเว่ยแข็งแรง ทั้งยังดึงหยางให้ลอยขึ้นบน ทำให้เลือดกลับสู่ระบบชีพจร จึงสามารถนำมาใช้ได้ในโรคเหงื่อออกผิดปกติและโรคเลือดออกผิดปกติ

ปริมาณการใช้ : 5 - 10 กรัม ในรูปแบบยาต้ม ยาลูกกลอน หรือยาผง ใช้ภายนอกบดพอกตามเหมาะสม

ข้อควรระวัง : หลีกเลี่ยงการใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการชักที่มีสาเหตุจากเลือดพร่อง หรือจากสาเหตุอินพร่องจนเกิดไฟขึ้นบน




สรุป จุดเด่นของทั้งฝางฟงและจิงเจี้ยะ

     ทั้ง 2 ตัวยา เป็นยาใช้บ่อยในโรคระดับเปี่ยวที่มีเรื่องลมและผดผื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ จิงเจี้ยะ จะเด่นที่ฤทธิ์เผ็ดทะลวงที่แรงกว่า เหมาะกับใช้รักษา ผด ผื่น ฝี และจิงเจี้ยะสุมมีสรรพคุณหยุดเลือด ใช้สำหรับโรคเลือดออกผิดปกติ ส่วนตัวฝางฟงนั้น เด่นที่สรรพคุณไล่ชื้นแก้ปวด เหมาะสำหรับโรคปวดจากลมชื้น ไขข้อปวดบวม ทั้งยังเด่นที่สามารถขับไล่ลมภายนอกรวมถึงระงับลมภายในได้ในเวลาเดียวกัน เหมาะสำหรับรักษาโรคที่มีสาเหตุจากลมภายนอกทำให้เกิดลมภายใน(外风引动内风) เช่น โรคบาดทะยัก โรคชักเกร็ง



วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

จุด "ฉื่อเจ๋อ" แหล่งน้ำของเส้นปอด(จุดขายดี)


จุดฉื่อเจ๋อ เป็นจุดเหอของเส้นลมปราณมือไท่อินปอด

ที่มาของชื่อ : ฉื่อ(尺) คือ หน่วยวัดความยาวตั้งแต่ข้อมือจนถึงศอกเรียกเป็น 1 ฉื่อ
                        เจ๋อ(泽) คือ บริเวณที่เป็นแอ่ง เป็นบ่อ

สรุปคือ จุด จุดนี้เป็นจุดเหอ(合穴)ของเส้นลมปราณปอด ในปัญจธาตุอยู่ในธาตุน้ำ ลมปราณของปอดไหลมารวมกันในจุดนี้เหมือนกับน้ำที่มักจะไหลไปรวมกันที่ก้นแอ่งเสมอ โบราณจึงเรียกจุดนี้ว่าฉื่อเจ๋อ

ตำแหน่ง เป็นแอ่งบุ๋ม อยู่บริเวณข้อพับแขน ข้างหัวกล้ามเนื้อไบเซปทางฝั่งด้านนอก 

สรรพคุณ ระบายและให้ความชุ่มชื้นกับปอด ปรับสมดุลลมปราณปอด

ใช้ในการรักษา อาการไอ หอบ ไอเป็นเลือด เป็นไข้ คอบวมอักเสบ แน่นหน้าอก เจ็บหัวใจ อาการชักในเด็ก เจ็บแขนเจ็บข้อศอก หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ วัณโรคปอด ทอนซิลอักเสบ ลำไส้อักเสบเฉียบพลัน 

วิธีใช้ ปักตรง 0.5 - 1 ชุ่น หรือเจาะปล่อยเลือด หรือสามารถรมยาได้

การใช้ร่วมกับจุดอื่น 

1.ร่วมกับจุด เฟ่ยซู(肺俞) โฆ่งจุ่ย(孔最) เหอกู่(合谷) ยวี๋จี้(鱼际) รักษาไอ หอม เจ็บคอ ไอมีเลือด

2.ร่วมกับจุด เกาหวาง(膏肓) รักษาวัณโรคปอด

3.ร่วมกับจุด เหอกู่(合谷) หลานกู่(然谷) รักษาโรคชัก หรือข้อศอกอักเสบรุนแรง

4.ร่วมกับจุด เหว่ยจง(委中) รักษาอาการอาเจียนร่วมกับถ่ายท้องแบบเฉียบพลัน



วันศุกร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2560

"จิงเจี้ยะ" 荊芥 เปี่ยวหรอ จิงเจี้ยะไปสิ!!!

             

   荆芥


จิง(荆)หมายถึงชื่อเรียกต้นไม้ชนิดหนึ่งในวงศ์เดียวกันนี้ ซึ่งมีลักษณะเป็นไม้พุ่ม ออกดอกเป็นก้านช่อ กลีบดอกสีมวงขาว เจี้ยะ(芥)หมายถึงเมล็ดมัสตาร์ด เพราะว่าต้นจิงเจี้ยะมีลักษณะคล้ายต้นในวงศ์เดียวกัน ทั้งเมล็ดยังมีกลิ่นเผ็ดหอมเหมือนมัสตาร์ด จึงนำทั้งสองคำมาประกอบกันเป็นชื่อเรียกของต้นจิงเจี้ยะขึ้นมา

จิงเจี้ยะมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Schizonepeta tenuifolia (Benth.) Briq.(裂叶荆芥) ชื่อเก่าคือ Nepeta tenuifolia Benth. ใช้ส่วนที่เหนือพื้นขึ้นมาทั้งหมดต้น เก็บเกี่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ช่วงช่อดอกบานแต่ยังเขียวอยู่ โดยตัดส่วนช่อตากแยกจากส่วนต้นกิ่งต่างหาก หรือจะไม่แยกก็ได้ ส่วนส่วนของช่อที่แห้งดีแล้วนั้นเรียก 荆芥穗 ส่วนกิ่งต้นเรียก 荆芥梗 และในส่วนไม่ได้ตัดแยกตากเรียก 荆芥全草 ยาจิงเจี้ยะที่ดีควรมีสีม่วงอ่อน กิ่งเล็ก ช่อยาวแน่น

รสฤทธิ์ : เผ็ด ฤทธิ์กลางค่อนอุ่น วิ่งเข้าเส้นลมปราณ ปอด ตับ

สรรพคุณ : ขับไล่ลมระดับเปี่ยว ทะลวงตุ่มผดผื่น ยุบฝีหนอง สุ่มไฟใช้ในการหยุดเลือด

ใช้ในการรักษา :

1.โรคระดับเปี่ยว จิงเจี้ยะเผ็ด ทั้งฤทธิ์เป็นกลางค่อนทางอุ่น ระบายทะลวงเสียชี่จากภายนอก  จึงเหมาะสำหรับใช้กับหวัดทั้งเกิดจากลมร้อนหรือลมหนาว รวมถึงโรคเขตร้อน(温病)ในระยะเริ่มแรก

2. ผดไม่มีหัว จิงเจี้ยะเผ็ดอุ่นทะลวง สามารถทั้งขับไล่ลมที่อุกกั้นภายนอก และทะลวงเสียชี่ที่อยู่ภายในระบายออกสู่ภายนอกได้เช่นกัน

3.ฝีหนองและอาการปวดจากการกระทบกระแทก จิงเจี้ยะ เผ็ดอุ่นขับเคลื่อนลมปราณ จึงเพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้เช่นกัน จึงนำมาใช้ในการรักษาก้อนบวมและอาการปวดได้ (通则不肿不痛)

4.เลือดออกผิดปกติที่ไม่ได้เกิดจากบาดแผลภายนอก จิงเจี๊ยะสามารถขับเคลื่อนลมปราณ ดึงหยางให้ขึ้นด้านบน  ใช้ในการรักษาโรคเลือดออกที่มีสาเหตุเกิดจากเลือดวิ่งออกนอกเส้นลมปราณ การเดินลมปราณตีย้อนไม่ปกติ (หยางเหนี่ยวรั้งอิน ชี่เหนี่ยวรั้งเลือด) ใช้การสุ่มไฟจิงเจี้ยะเพิ่มประสิทธิภาพในการห้ามเลือด สามารถใช้ได้ค่อนข้างกว้าง ไม่ว่าจะเป็นอาการอาเจียนเป็นเลือด เลือดออกตามไรฟัน จ้ำเลือดจากเลือดออกใต้ผิวหนัง ถ่ายเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด ตกเลือด เป็นต้น

5.ผื่นคัน ลมพิษ จิงเจี้ยะมีรสเผ็ด สามารถขับไล่เสียชี่ลม ที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการคันได้ โดยนอกจากลมพิษแล้ว สามารถใช้ได้ทุกกรณีที่มีอาการคันบริเวณผิวหนัง

6.ปวดศรีษะตาแดง ช่องหูบวมอักเสบ คอบวมอักเสบ เพราะนอกจากมีรสเผ็ดขับกระจายแล้ว ยังมีลักษณะเบาลอยขึ้นบน เหมาะสำหรับใช้รักษาโรคที่เกิดช่วงบนซ่างเจียวของร่างกาย

7.อัมพาต ชัก อาการเวียนศรีษะหลังคลอด ตัวจิงเจี้ยะเผ็ดอุ่น วิ่งเข้าเส้นลมปราณตับ ปรับสมดุลและกระจายลมปราณของตับ จึงสามารถรักษาโรคต่างๆที่เกิดจากลมปราณตับติดขับหรือเกิดจากเกิดลมตับ

8.ปัสสาวะอุจจาระไม่คล่อง ไอหอบ ถึงแม้ว่าตัวของจิงเจี้ยะนั้น จะเป็นยาที่ขับกระจายและลอยขึ้นบน จะไม่กักเก็บและลงล่าง อย่างที่พวกเราเข้าใจกัน แม้กระนั้น แพทย์แผนจีนอาวุโสในอดีต ก็ได้เลือกจิงเจี้ยะเข้ามาใส่ในตำรับยาที่ใช้รักษาอาการท้องผูก กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ด้วยเช่นกัน โดยใช้หลักการของการดึงเบาขึ้นบน และใช้ยาตัวอื่นกดหนักลงไป  (升清降浊)


ปริมาณการใช้ : ใช้ภายใน 5-10 กรัม ในรูปแบบ ยาต้ม ทำลูกกลอน หรือยาผง
                       
                          ใช้ภายนอก  ตำ บด พอกภายนอก ต้มอาบหรือแช่

ข้อควรระวัง : ไม่ควรต้มนาน เลี่ยงการใช้ในผู้ป่วยมีอาการเปี่ยวแบบพร่องเหงื่อออกมาก และผู้ป่วยปวดศรีษะที่มีสาเหตุจากสารอินพร่อง
                     


วันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

จุด "เสียป๋าย" (侠白) จุดขนาบข้างปอด



จุดเสียป๋าย เส้นลมปราณมือไท่อินปอด

ที่มาของชื่อ : เสีย(侠) คือ ด้านข้าง
                      ป๋าย(白) คือสีขาว หรือสีของปอดนั่นเอง

ความหมายโดยรวมก็คือ จุดที่อยู่ด้านข้างของปอดทั้ง 2 ข้าง นั่นเอง

ตำแหน่ง : อยู่ใต้รักแร้ 4 ชุ่น เลียบกล้ามเนื้อไบเซปทางด้านนอก หรือ อยู่ข้างเลียบกล้ามเนื้อไบเซปในส่วนที่นูนออกมาสูงสุด ทางด้านนอก

สรรพคุณ : ปรับระบายชี่ปอด ทะลวงกระจายชี่ภายในทรวงอก

ใช้ในการรักษา : อาการไอ หอบ เจ็บหัวใจ แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก อวกลม ปวดต้นแขน หลอดลมอักเสบ กระเพาะอักเสบ หัวใจเต้นเร็ว

วิธีใช้ : ปักเข็มตรง 0.5 - 1 ชุ่น หรือใช้การรนยา

การใช้ร่วมจุดอื่น

1. ร่วมกับจุด เฟ่ยซู(肺俞),ฉื่อเจ๋อ(尺泽),ข่งจุ้ย(孔最),เฟิงหลง(丰隆) ในการรักษาไอหอบ เสมหะมาก

2. ร่วมกับจุด ซินซู(心俞),เน่ยกวน(内关),เก๋อซู(膈俞) ในการรักษาเจ็บหัวใจ แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก

3. ร่วมกับจุด ซีเหมิน(郄门),เจียนสื่อ(间使),เทียนเฉวียน(天泉) ในการรักษาอาการปวดต้นแขนด้านหน้า




วันเสาร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

พูดถึง "จื่อซู" (紫苏) ภาพหมูย่างเกาหลีก็ลอยมา


紫苏

    เวลาไปกินเนื้อย่างทุกครั้ง เพื่อนชาวเกาหลีมักจะพกกระป๋องสีทองแบนๆไปวางบนโต๊ะด้วยทุกครั้งสิ่งนั้นคือจื่อซูที่แช่อยู่ในน้ำมันงานั่นเอง  ไอ้เราคนไทยก็ไม่เคยรู้จักหน้าคร่าตา เพื่อนเกาหหลียื่นให้ชิม ก็ไม่เห็นจะอร่อยตรงไหน มีแต่กลิ่นหอมๆเท่านั้น แต่เหล่าคนเกาหลีเอง เนื้อเข้าปากคำ ก็จะตามด้วยใบนี้ทุกคำไป เพื่อนเกาหลีนั้น ได้บอกกล่าวมาว่า  คนเกาหลี เวลากินเนื้อย่างจะขาดใบนี้ไม่ได้เลย เพราะมันจะช่วยในการย่อยเนื้อนั่นเอง จะกินเนื้อเท่าไหร่ก็ได้  ไม่อ้วน!!!

จื่อซู : ซูก็พ้องเสียงกับคำว่าซูฉ่าง ที่แปลว่า โล่งสะดวกนั่นเอง ส่วนจื่อสีม่วงนั้นก็คือสีของใบนั่นเองจื่อซู คือใบของต้น Perilla frutescent (L.) Britt. ซึ่งต้นนี้เอง ก็แบ่งย่อยออกมาเป็นหลายชนิดสายพันธุ์  มีหลักๆอยู่ 5 ชนิด แต่ที่นำมาใช้เป็นตัวยาจื่อซูในที่นี้ ครอบคลุมเพียงแค่ 2 ชนิดเท่านั้น คือ
            P.frutescens (L.)Britt.var.crispa Deane โจ้วเย้จื่อซู หรือ ฮุ๋ยฮุ๋ยซู     P.frutescens (L.)Britt.var.acuta (Thunb)Kudo.เจียนเย่จื่อซู หรือ เย่เซิงจื่อซู



รสฤทธิ์ : เผ็ด อุ่น วิ่งเข้าเส้นลมปราณปอด และม้าม

สรรพคุณ : ขับไล่ความเย็นระดับเปี่ยว ขับเคลื่อนลมปราณปรับสมดุลกระเพาะอาหาร ทำให้ครรภ์สงบ

ใช้ในการรักษา :

1.  เป็นหวัดจากลมเย็น  จื่อซูเผ็ดหอม สามารถระบายเปี่ยว ขับไล่ลมเย็น มีฤทธิ์อุ่นนุ่มนวล สามารถใช้รักษาหวัดที่เกิดขึ้นในฤดูทั้งสี่ ไม่ว่าจะเกิดจากร้อนหรือหนาว

2.ไข้หัด มาลาเรียระบาด จื่อซูระบายเปี่ยว เผ็ดหอมทะลวงอุดกั้น สลายสิ่งสกปรก ใช้รักษาได้ดีกับโรคที่เกิดจากไวรัส ขับไล่การรุกรานจากภายนอก

3.คลื่นไส้อาเจียน ไอหอบจากชี่ตีย้อน จื่อซูเผ็ดหอมระบายการอุดกั้น ขับเคลื่อนลมปราณทะลวงผ่านการอุดกั้น  ใช้ได้ดีในการรักษาโรคที่เกิดจาก ชี่อุดกั้น ชี่ตีย้อน

4.แพ้ท้อง ครรภ์ไม่สงบ จื่อซูเด่นในด้านการปรับการเดินลมปราณ จึงเป็นยาที่ดีในการรักษาสตีมีครรภ์ที่มีอาการชี่ติดขัด

5.ขาบวม กระหายน้ำ ปัสสาวะน้อย ชี่เดิน น้ำเดิน ชี่ติดขัด น้ำคั่งค้าง จื่อซูขับเคลื่อนลมปราณให้เดินสะดวก ทำให้การขับเคลื่อนของน้ำกลับเป็นปกติ จึงเหมาะในการรักษา อาการบวมน้ำที่มีการขับปัสสาวะน้อย

ปริมาณการใช้ : สำหรับต้มดื่มใช้ 5 – 10 กรัม ใช้ภายนอกตามแต่เหมาะสม ทาพอก หรือต้มอาบ

ข้อควรระวัง : จื่อซูไม่ควรต้มนาน

สำหรับจื่อซูเกิ่ง(紫苏梗,กิ่งต้นจื่อซู)

รสฤทธิ์ : เผ็ด อุ่นเล็กน้อย วิ่งเข้าเส้นลมปราณปอด และม้ามสรรพคุณ : ปรับสมดุลลมปราณและจงเจียว ระงับปวด สงบครรภ์
ใช้ในการรักษา : จุกแน่นลิ้นปี่เนื่องจากชี่ติดขัด อาหารอุดตัน ปวดท้อง เรออ้วก ครรภ์ไม่สงบปริมาณการใช้ : 5 -10 กรัม





วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

จุด "เทียนฝู่" (天府,LU3) จุดฟ้าประสาน

จุดเทียนฝู่ เส้นลมปราณมือไท่อินปอด

ที่มาของชื่อ : เทียน(天) คือตำแหน่งด้านบน ในมนุษย์ก็คือ ส่วนศรีษะ ส่วนอก 
                        ฝู่(府) คือ การรวมกัน เป็นตำแหน่งที่มารวมกัน
            ความหมายโดยรวมก็คือ ปอดเป็นศูนย์รวมของชี่(ลมปราณ)ของมนุษย์ อยู่ในตำแหน่งของฟ้า(ด้านบน) มีทวารเปิดอยู่ที่จมูก จมูกใช้หายใจเข้าออก เป็นทางผ่านของลมปราณฟ้า

ตำแหน่ง : อยู่เลียบกล้ามเนื้อไบเซปด้านนอก ห่างลงมาจากแขบพับรักแร้ 3 ชุ่น

สรรพคุณ : ระบายชี่ปอด ดับร้อนสลายก้อน

ใช้ในการรักษา : อาการไอ หอบ เลือดกำเดาไหล คอบวมอักเสบ คอพอก ปวดแขน หลอดลมอักเสบ ไซนัสอักเสบ

วิธีใช้ : ลงเข็มตรง 0.5 - 1 ชุ่น หรือใช้การรนยา

การใช้ร่วมจุดอื่น :

1.ร่วมกับจุดเน้าฮุ้ย(臑会),ชี่เซ่อ(气舍) ในการรักษาคอพอก คออักเสบบวมโต

2.ร่วมกับจุดเหอกู่(合谷) ในการรักษาเลือดกำเดาไหล

3.ร่วมกับจุดชวี่ฉื๋อ(曲池),เลว่เชว(列缺),ป่ายฮุ้ย(百会) ใช้ในการรักษาอาการกลัวลม น้ำตาไหลตลอดเวลา ขี้หลงขี้ลืม

4.ร่วมกับจุดเจียนยวี๋(肩髃),ชวี่เจ๋อ(曲泽) ใช้ในการรักษาอาการปวดต้นแขน


"ซี่ซิน" 细辛 ถึงร้ายก็รัก



ตัวยาซี่ซินนั้น มีที่มาจากรากของพืช 3 ชนิด ดังนี้

1.Asarum heterotropoides Fr.Schmidt var.mandshuricum (Maxim.) Kitag. เรียก เป่ยซี่ซิน(北细辛)
2.Asarum sieboldii Mig.var.seoulense Nakai เรียก ฮั่นเฉิงซี่ซิน(汉城细辛)
3.Asarum sieboldii Miq. เรียก ฮว๋าซี่ซิน(华细辛)

จากพื้นที่การปลูก ชนิดที่ 1และ 2 นิยมปลูกมากทางเหลียวหนิง จึงสามารถเรียก 2 ชนิดแรกรวมกันว่า เหลียวซี่ซิน (辽细辛) ส่วนฮว๋าซี่ซินจะนิยมปลูกกันในเมืองฮว๋าอิน(华阴)ที่ซ่านซี

รสฤทธิ์ : เผ็ด อุ่น เข้าเส้นลมปราณ หัวใจ ปอด ไต

สรรพคุณ : ขับไล่ลมเย็น ไล่ลมระงับปวด ทะลวงทวาร อุ่นปอดสลายน้ำที่คั่งค้าง

ใช้ในการรักษา :

1.หวัดจากลมเย็น หยางพร่องทำให้เสี่ยชี่บุกรุก ซี่ซินเผ็ดอุ่นกระจาย ทั้งยังมีกลิ่นหอมทะลุทะลวง มีกำลังมากในการขับไล่ความเย็น สามารถทะลวงได้ตั้งแต่นอกถึงใน วิ่งเข้าเส้นลมปราณปอด จึงสามารถที่จะขับไล่ลมหนาวในระดับเปี่ยวได้

2.ปวดหัว ปวดฟัน ปวดโพรงจมูก คัดจมูกน้ำมูกไหล ปวดตา หูอื้อ เจ็บคอ แผลในปาก ซี่ซินเผ็ดอุ่นกระจายวิ่งทะลุทะลวง เป็นยาที่หอมทะลุทะลวงดีที่สุด ช่วยในการระบายกระจายการอุดกั้น วิ่งขึ้นทะลวงจนถึงสุดกระหม่อม  ทะลวงทวารทั้ง 9 ในร่างกาย เหมาะสำหรับรักษาโรคที่เกิดบริเวณศรีษะ  เป็นยาสำคัญในการทะลวงแก้ปวด

3.ไอหอบจากเสมหะที่คั่งค้าง ซี่ซินเผ็ดกระจาย อุ่นทะลวง นอกจากสามารถขับไล่ความเย็นในระดับเปี่ยวได้แล้ว ยังสามารถเดินชี่ลงล่างเพื่อทะลวงเสมหะที่อุดตัน อุ่นปอดสลายน้ำที่คั่งค้าง

4.อาการปวดจากลมเย็นชื้น ปวดเย็นที่เข่าและเอว ซี่ซินสามารถกระจายตัวเข้าไปในเส้นลมปราณเส้าอินไต ใช้ความเป็นหยางในการทะลวง ขับกระจายความเย็นที่กระจุกกันเป็นก้อนออกมาภายนอก ทั้งยังขับไล่ลมชื้นที่แทรกตัวอยู่ตามเอ็น กระดูก และข้อต่อต่างๆได้ด้วย

5.มือเท้าเย็น ปวดเย็นท้อง ซี่ซิน เผ็ดอุ่นกระจาย ให้ความอบอุ่นเส้นลมปราณ ขับไล่ความเย็นทั้งภายในและภายนอก ทำให้เลือดไหลเวียนทะลวงชีพจร

6.คัดหน้าอก ประจำเดือนไม่มา ปวดท้องประจำเดือน ซี่ซิน เผ็ดอุ่นกระจาย วิ่งขึ้นไหลเวียนชีพจรทรวงอก สลายก้อนแก้ปวด วิ่งลงไหลเวียนทะเลแห่งเลือด อบอุ่นเส้นลมปราณ อบอุ่นมดลูก ไล่ความเย็นแก้ปวด

7.เจ็บหัวใจแน่นหน้าอก ซี่ซิน เผ็ดอุ่นกระจาย  ระบายทะลวงหลอดเลือดหัวใจ ขับไล่ความเย็นแก้ปวด

8.เสมหะอุดกั้น อาละวาดหมดสติ ซี่ซิน เผ็ดวิ่งกระจาย วิ่งลงล่างสลายเสมหะ กลิ่นหอมสลายการอุกตับคั่งค้าง ทะลวงข้อต่อเปิดทวาร ปลุกสติ

ปริมาณการใช้ : เนื่องจากซี่ซินมีความเป็นพิษ จึ่งควรใช้ในปริมาณที่น้อย ยาต้มใช้ 1 - 3 กรัม ,ยาผงใช้ทานละ 0.5 - 1 กรัม หากว่าเป็นโรคอันตราย หรือผู้ป่วยอ่อนแอ หรือใช้ยาในปริมาณที่มากกว่านี้ เวลาใช้ควรต้มซี่ซินก่อนยาตัวอื่น 45 นาที เพื่อขจัดหรือลดพิษลง


วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

จุด "ยวิ๋นเหมิน" (云门,LU2) ประตูแห่งเมฆา



จุดยวิ๋นเหมิน


ที่มาของชื่อ :
ยวิ๋น(云) หมายถึงเมฆ ชี่อากาศที่บางเบา เป็นชี่ของแม่น้ำและภูเขา
เหมิน(门) หมายถึง ประตู เป็นประตูทวารของเส้นลมปราณมือไท่อินปอด
ความหมายโดยรวมก็คือ เป็นทวารประตูเข้าออกของชี่ที่บางเบาของปอด(บางเบาคือลักษณะเฉพาะของชี่ปอด)

ตำแหน่ง : อยู่ที่แอ่งเว้าใต้กระดูกไหปลาร้า ห่างจากกึ่งกลางลำตัว 6 ชุ่น

สรรพคุณ : กระจายชี่ปอดลงล่าง ระงับไอสงบหอบ

ใช้ในการรักษา : ไอ หอบ เจ็บแน่นหน้าอก ปวดไหล่หลัง หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ วัณโรคปอด ปวดประสาทซี่โครง ไหล่ติด

วิธีใช้ : ปักเข็มเฉียงออก 0.5 - 0.8 ชุ่น หรือรมยา

การใช้ร่วมกับจุดอื่น :

1.ร่วมกับจุดเฟ่ยซู(肺俞) ใช้ในการรักษาอาการไอ อาการหอบ

2.ร่วมกับจุดจงฝู่(中府),อิ่นป๋าย(隐白),ชีเหมิน(期门),เฟ่ยซู(肺俞),หุนเหมิน(魂门),ต้าหลิง(大陵) ใช้ในการรักษาเจ็บหน้าอก เจ็บชายโครง

3.ร่วมกับจุดเฟ่ยซู(肺俞),เกาฮวง(膏肓),ฉื่อเจ๋อ(尺泽) ใช้ในการรักษาอาการไอจากวัณโรคปอด



วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

桂枝 กิ่งอบเชยจีน สรรพคุณกึ่งครอบจักรวาล



"桂枝" กุ้ยจือ กิ่งอบเชยจีน


ส่วนที่ใช้เป็นยาคือกิ่งจากต้นอบเชยจีน Cinnamomum cassia Presl 

ส่วนตัวยา肉桂คือส่วนของเปลือกต้นและเปลือกกิ่งจากต้นนี้เช่นเดียวกัน ไม่ใช่แกนกลางเนื้อไม้หรือแก่นที่หลายๆคนเข้าใจกัน และในปัจจุบัน ยังมีคนผลิตยาทั้ง桂枝และ肉桂มาจากต้นคนละสายพันธุ์กันอีกด้วย แม้ภายนอกจะคล้ายแต่สรรพคุณอาจจะแตกต่างหรือเทียบเท่ากันไม่ได้ หลายๆต้นที่ถูกปลอบแปลงปนมาได้แก่ อบเชยอินโด C. burmannii อบเชยเวียดนามC. loureiroi และอบเชยศรีลังกาC. citriodorum

เก็บเกี่ยว : ในเดือนมีนาคมถึงช่วงเดือนกรกฎาคม ตัดกิ่งในช่วงความยาวตั้งแต่ 15 เซนติเมตรถึง 1 เมตร แต่ที่นิยมสุดคือ 20 เซนติเมตร นำตากให้แห้ง กุ้ยจือนั้นไม่มีแบ่งเกรดชัดเจน แต่ยากุ้ยจือที่ดีต้อง กิ่งอ่อน สีน้ำตาลแดง และกลิ่นชัดเจน

กุ้ยจือ มีรส : เผ็ด หวาน ฤทธิ์อุ่น
วิ่งเข้าเส้นลมปราณ : หัวใจ ปอด กระเพาะปัสสาวะ
มีสรรพคุณ : ขับเหงื่อขับไล่ปัจจัยกระทบภายนอกปรับสมดุลอิ๋ง-เว่ย
                  อุ่นทะลวงเส้นลมปราณ บำรุงหยางหัวใจ
                  ปรับสมดุลเส้นลมปราณชง

ใช้ในการรักษา

1.หวัดจากกระทบลมเย็น กุ้ยจือเผ็ดหวานอุ่น เสริมหยางเสริมเว่ย ทั้งระบายเปี่ยวขับเหงื่อแต่นุ่มนวลกว่าหมาหวง มีฤทธิ์ดีในทางการกระจายหยางชี่เข้าสู่ระดับเว่ย ระทำให้อิ๋งและเลือดไหลเวียนสะดวกในระดับเปี่ยว ทำให้เว่ยภายนอกแข็งแรง

2.ใจสั่นเจ็บแน่นหน้าอก รวมถึงมีอาการปวดเย็นบริเวณท้อง กุ้ยจือรสเผ็ด ฤทธิ์อุ่น เสริมหยางทะลวงชีพจร จึงเหมาะสำหรับการรักษากลุ่มอาการปวดที่มีสาเหตุมาจาก มีภาวะของหยางพร่องจึงทำให้เส้นเลือดเส้นลมปราณติดขัด

3.ประจำเดือนมาน้อยปวดท้อง กระปิดกระปอย อาการปวดจากลมชื้น เนื่องด้วยรสเผ็ดของกุ้ยจือมีผลช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี อีกทั้งยังอุ่นทะลวงหลอดเลือด จึงสามารถรักษาอาการปวดที่เกิดจากการคั่งของเลือด

4.ไอหอบบวมน้ำ มีการคั่งของเสมหะเย็น กุ้ยจือเผ็ดอุ่นเสริมหยางในการสลายความชื้น โดยเฉพาะการมีเสมหะคั่งค้าง จะมีอาการแสดงคือไอหอบ บวมน้ำ

5.ใจสั่นคลื่นไส้ ชี่ตีย้อนขึ้นบน กุ้ยจืออุ่นทะลวงหยางชี่ ปรับสมดุลเส้นลมปราณชง กดชี่ลงล่าง จงเหมาะรักษาอาการต่างๆ ที่เกิดจากสาเหตุการที่ชี่ตีย้อนขึ้นบน ไม่ว่าจะเป็นอาการใจสั่น คลื่นไส้อาเจียน อ้วกลมอ้วกดันลิ้น เป็นต้น

6.ลมตับอุดกั้น สะบัดหนาวสะบัดร้อนจากไข้มาลาเรีย กุ้ยจือทั้งยังวิ่งเข้าเส้นลมปราณตับถุงน้ำดี ช่วยในการปรับสมดุลของชี่ตับ ระบายชี่ตับจากการอุดกั้น จึงเหมาะรักษาในกรณีของพยาธิสภาพเกิดที่เส้นลมปราณตับถุงน้ำดี เช่นชี่ตับและถุงน้ำดีติดขัด ลมตับกำเริบ อาการสะบัดร้อนสะบัดหนาวจากไข้มาลาเรีย เป็นต้น


7.เหงื่อออกมากผิดปกติ อสุจิเคลื่อน และเลือดออกจากสาเหตุเลือดร้อน เลือด เหงื่อ และอสุจิมีต้นกำเนิดเดียวกันจากสารอิน เพราะฉะนั้นอาการข้างต้นคืออาการแสดงของการที่อิ๋งอินออกมาภายนอก หรือจะเรียกอีกอย่างว่าอิ๋งเว่ยไม่สัมพันธ์กัน ซึ่งกุ้ยจือมีฤทธิ์ในการปรับสมดุลอิ๋ง  

ปริมาณการใช้ : 3 - 10 กรัม

วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560

จุด"จงฝู่"(中府)LU1 ของเส้นลมปราณปอด


จงฝู่(中府) : เป็นจุดมู่ของเส้นปอด(มู่=คือจุดที่รวมปราณของแต่ละอวัยวะมากองรวมกันที่บริเวณท้องและทรวงอก)

จง หมายถึงจงเจียว จงชี่ (中焦,中气)
ฝู่ หมายถึง การรวมกัน(聚)
ความหมายโดยรวมคือ เส้นมือไท่อินก่อกำเนิดจากจงเจียว จุดนี้คือจงชี่ที่ก่อกำเนิดจากการรวมตัวกันของฟ้าและดิน เป็นจุดมู่ของปอด เป็นตำแหน่งที่ลมปราณของปอดและม้ามมาผสานรวมกัน จึงเป็นที่มาของชื่อจุด "จงฝู่"

ตำแหน่ง : อยู่บริเวณทรวงอก บริเวณกระดูกซี่โครงซี่ที่ 1 ห่างจากกึ่งกลางลำตัว 6 ชุ่น ล่างจุดยวิ๋นเหมิน 1 ชุ่น

สรรพคุณ : ระบายชี่ปอด ปรับสมดุลชี่ ปรับสมดุลกระเพาะ ขับน้ำ

ใช้ในการรักษา : ไอ หอบ ชี่ตีย้อน เจ็บแน่นหน้าอก เจ็บไหล่หลัง เจ็บคอ หน้าบวม ไม่อยากอาหาร คลื่นไส้ หลอดลมอักเสบ ปอดอักเสบ วัณโรคปอด ปวดประสาทซี่โครง

วิธีใช้ : ปักเอียง 45 องศา ออกนอกลำตัว ลึก 0.5-0.8 ชุ่น หรือใช้การรมยา

การใช้ร่วมกับจุดอื่น :

1.ร่วมกับจุด ฟงเหมิน(风门),เหอกู่(合谷) ใช้ในการรักษา สะบัดร้อนสะบัดหนาว เจ็บคอ
2.ร่วมกับจุด เฟ่ยซู(肺俞),ยวิ๋นเหมิน(云门),เทียนฝู่(天府),ฮว๋าไก้ย(华盖) ใช้ในการรักษา ไอจากกระทบภายนอก หอบหืด
3.ร่วมกับจุด อี่ซู(意舍) ใช้ในการรักษา แน่นหน้าอก
4.ร่วมกับจุดฟู่ลิว(复溜) ใช้ในการรักษา ไอจากปอดร้อน



麻黄หมาหวง รักแรกพบทุกสถาบัน


辛温解表药 - 麻黄

คำว่า 麻 มาจากรสชาติที่ ฝาด ชา ซ่าลิ้น , ส่วนคำว่า 黄 คือสีเหลืองของตัวยาแห้งนั่นเอง

หมาหวงเป็นกิ่งแห้งของต้น Ephedra มี 3 ชนิด

1.จากต้น Ephedra sinica Stapf เรียก “草麻黄” เฉ่าหมาหวง
2.จากต้น Ephedra intermedia Schrenk et C.A. Mey. เรียก “中麻黄” จงหมาหวง
3.จากต้น Ephedra equisetina Bge. เรียก “木贼麻黄” มู่เจ๋ยหมาหวง

ยาหมาหวงนั้นไม่ได้แบ่งเกรดของยา เพียงแต่ต้องแห้ง หนา มีสีเขียวอ่อนๆ ไส้ตัน รสขมฝาด

รสฤทธิ : เผ็ด ขมเล็กน้อย อุ่น เข้าเส้นลมปราณ ปอด , กระเพาะปัสสาวะ

สรรพคุณ : ขับเหงื่อไล่ความเย็น , ระบายชี่ปอดสงบหอบ , ขับน้ำลดบวม

ใช้ในการรักษา

1.หวัดจากลมเย็น หมาหวงเผ็ดขับระบาย ฤทธิ์อุ่นขับไล่ความเย็น วิ่งเข้าปอด กระเพาะปัสสาวะ ระบายชี่
ของปอด เปิดรูขุนขน ขับเหงื่อได้ดี เป็นยาสำคัญในการขับเหงื่อระบายเปี่ยว

2.ไอหอบ หมาหวงเข้าเส้นปอด ระบายชี่ปอด ทำให้สามารถหยุดไอหยุดหอบ

3.ขาบวม หมาหวงวิ่งขึ้นระบายปอด วิ่งลงขับกระเพาะปัสสาวะ จึงสามารถปรับทะลวงทางเดินน้ำใน
ร่างกาย ขับปัสสาวะลดบวม ทั้งยังระบายปอด ขับเหงื่อไล่ชื้น จึงเหมาะในการรักษา อาการบวมน้ำ
ปัสสาวะน้อย

4. อาการปวดจากลมชื้น หมาหวงเผ็ดระบาย อุ่นทะลวง ใช้บ่อยกับอาการปวดจากลมเย็นชื้น

5. ปวดเย็นเอวท้อง หมาหวงเผ็ดอุ่น ขับไล่ความเย็น ทะลวงการอุดกั้น

6.ไข้มาลาเลีย หมาหวงเผ็ดระบายเปี่ยว อุ่นระบายทะลวงการอุดกั้น

7. ผิวหนังขึ้นตุ่ม ยุบช้า แตกช้า หมาหวงทะลวงเปิดรูขุมขน ขับไล่เสียชี่ในระดับเปี่ยว 

8. ดีซ่าน ปัสสาวะน้อย หมาหวงขับปัสสาวะไล่ความชื้น

9. ก้อนไม่มีหัว(ทั้งฝีหรือซีส) หมาหวงเผ็ดอุ่น ขับไล่ความเย็นทำลวงก้อนอุดตัน ทำให้เลือดไหลเวียน
ยุบฝีหนอง จึงเหมาะในการรักษา หยางพร่องเกิดความเย็นอุดกั้นเป็นก้อน ลมปราณและเลือดอุดกั้นที่ผิวหนัง

วิธีใช้ : ยาต้มรับประทาน 2 - 10 กรัม , ใช้ในการขับเหงื่อให้ใช้สด ,ใช้รักษาไอหอบให้ใช้แบบผัด